วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ไม่รับประทานอาหารเช้า อันตราย!!!

 
ไม่รับประทานอาหารเช้า อันตราย!!!

อาการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่เกิดขึ้น อาจมีสาเหตุมาจากการไม่รับประทานอาหารเช้าก็ได้ อยากรู้อันตรายแค่ไหน วันนี้มีมาฝาก

การไม่รับประทานอาหารเช้า เป็นเหตุพื้นฐานที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่เรามองข้ามไป คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ปฏิบัติอยู่เป็นประจำไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แต่ทราบไหมว่า อาหารมื้อเช้า เป็นอาหารมื้อที่สำคัญที่สุด เพราะร่างการต้องการสารอาหารในช่วงเวลา 07.00 - 09.00 น. เนื่องจากช่วงเวลานี้สมองของคนเราต้องการเลือดและออกซิเจน เป็นอาหารบำรุง ถ้าไม่รับประทานอาหารเช้า ก็จะไม่มีเลือดมารับออกซิเจนส่งขึ้นไปเลี้ยงสมอง
ถ้าเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอหรือส่งไปได้น้อยแล้วล่ะก็ จะเริ่มมีอาการดังต่อไปนี้
ผมร่วง หน้าแก่เร็ว คออักเสบง่าย นอนไม่ค่อยหลับ นอนไม่เต็มอิ่ม ตื่นกลางดึกบ่อย ๆ ฝันบ่อย ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดเข่า ปวดศีรษะ ปวดหู ปวดกระบอกตา ปวดข้อเท้า กระดูกสะโพกจะเคลื่อนได้ง่าย เหงือกบวม เจ็บคอ เจ็บลิ้น เป็นไซนัส หรือ วิตกกังวล โดยอาการเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นทีละอย่าง หรือหลายอย่างพร้อมกันก็ได้ จนเป็นสาเหตุไปสู่อาการสมองเสื่อมต่อไปในอนาคต
รู้ดังนี้แล้ว ก็เสียสละเวลาสักนิดรับประทานอาหารมื้อเช้า เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่เป็นภาระต่อผู้อื่นในอนาคต.


10 สิ่งแรกที่ชายหนุ่มมองเห็นในตัวหญิง

เวลา ออกเดทกับใคร เคยสงสัยมั้ยว่า ผู้ชายคิดอย่างไรในตัวผู้หญิง จากการสำรวจ นี่เป็น 10 สิ่งที่ผู้ชายมักมองเห็นในตัวผู้หญิงภายใน 10 วินาทีแรกที่เจอกัน     ความมั่นใจ : ผู้ชายส่วนใหญ่มักมองหาความมั่นใจในตัวผู้หญิงเป็นอันดับแรก ซึ่งสังเกตได้จากการทักทาย น้ำเสียง และการสบตา หากคุณสามารถพูดคุยได้อย่างเป็นธรรมชาติก็ถือว่าชนะใจเขาไปเกือบครึ่งแล้วละ

      ความเพอร์เฟ็กต์ : ผู้หญิงที่ดูดีไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้า ผม รองเท้า กระเป๋า หรือแม้กระทั่งเล็บเท้าที่ถูกแต่งแต้มมาอย่างกิ๊บเก๋ ก็มักจะทำให้ผู้ชายคิดว่าเธอดูเพอร์เฟ็กต์เกิน ดูเชี่ยวเกิน ซึ่งอาจหมายความรวมไปถึงเจ้าชู้มากเกินไปนั่นเอง

    
 ความเซ็กซี่ : แน่นอน ผู้ชายมักชอบมองผู้หญิงที่มีความเซ็กซี่อยู่แล้ว แต่ความเซ็กซี่ก็ไม่ได้ตัดสินจากหน้าตาหรือเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่รวมไปถึงกิริยาท่าทาง น้ำเสียง และการใช้สายตาด้วยต่างหากละ ถึงแม้ว่าคุณเกิดมาหน้าตาไม่สะสวยอย่าง อั้ม-พัชราภา แต่ถ้าคุณฉลาดที่จะแสดงออก อย่างเช่น แทนที่จะทักทายเฉยๆ ก็ลองสบตาสักครู่ พร้อมกับแย้มริมฝีปากนิดๆ ง่ายๆ แค่นี้ก็ทำให้คุณกลายเป็นสาวที่น่าค้นหาได้

     โสดหรือเปล่า : ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะแอบสังเกตว่า คนที่ปลื้มอยู่นั้นมีเจ้าของหรือยัง ซึ่งมองได้จาก หากมีผู้ชายหน้าตาดีเดินผ่านมา ผู้หญิงที่มีแฟนอยู่แล้วมักจะทำได้แค่มองเพียงแวบเดียว แต่ถ้ายังโสดอยู่ละก็ อาจถึงขั้นหันไปทั้งตัวเลยก็ได้

    
 นิสัยชอบชิงดีชิงเด่น : ในกรณีที่คุณกำลังดินเนอร์กับชายหนุ่มอยู่นั้น เผอิญมีหญิงแปลกหน้าเดินมาทักเขาเฉยเลย แถมยังทำมึนไม่เห็นคุณอยู่ในสายตาเสียด้วย ถ้าหากคุณเกิดปรี๊ดแตก พร้อมส่งสายตาพิฆาตใส่เธอผู้นั้นละก็ เขาคงไม่แฮปปี้แน่ แต่ถ้าคุณทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม สุขุม ลุ่มลึก และเฉยซะ นั่นแหละจะสร้างความประทับใจให้กับเขาอย่างไม่รู้ลืมเลยละ

    
 สายตาจับผิด : เมื่อคุณถูกแนะนำให้รู้จักกับชายหนุ่มคนหนึ่ง อย่า! อย่าใช้สายตาสแกนเขาตั้งแต่ หัวจรดเท้าเชียว เพราะผู้ชายคงจะไม่ชอบใจแน่ หากโดนจับจ้องด้วยสายตาจับผิดแบบนี้

      ความ Friendly : ผู้ชายส่วนมากมักมองหาความเป็นมิตร ความเรียบง่าย สบายๆ และมีอารมณ์ขันในตัวหญิงสาว เพราะเขาจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อต้องออกเดทกับคุณ

     
 รูปร่าง : รูปลักษณ์ภายนอกก็เป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าหุ่นของคุณจะไม่เซ็กซี่อย่างน้องเป้ย หรือหน้าตาไม่แอ๊บแบ๊วถึงขั้นน้องเต้ย แต่ถ้าหากมีความมั่นใจในรูปร่างของตัวเองแล้ว บุคลิกที่แสดงออกมาก็จะดูดีไปด้วย แถมยังช่วยสร้างเสน่ห์ให้กับตัวคุณแบบไม่รู้ตัวอีกด้วย

     จู้จี้ขี้บ่น : ผู้ชายมักจะสังเกตผู้หญิงว่าจู้จี้ขี้บ่นหรือไม่ จากการดูว่าคุณชอบขอเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี่ในร้านอาหารบ่อยๆ หรือเปล่า หรือชอบเล่าว่าวันนี้เจอปัญหาอะไรมาบ้าง ทั้งๆ ที่เป็นแค่เดทแรกระหว่างเขาและคุณ

      กำลัง Need Somebody : เวลาเจอผู้ชายในสเปคที่ทั้งหล่อ เท่ และรวยสุดๆ หากคุณเผลอแสดงอาการปลื้มจนเวอร์ออกไปให้เขาเห็น เพราะอาจทำให้เขารู้ว่าคุณน่ะคงจะเพิ่งผ่านการถูกหักอกมาหมาดๆ และกำลังมองหาเสาหลักอันใหม่เกาะอยู่เป็นแน่

ดาวเคราะห์ขนาดมหึมา อาจพุ่งชนโลกในพ.ย.

นาซ่าเผยข้อมูลล่าสุด  ดาวเคราะห์ขนาดมหึมาหนัก 55 ล้านตัน อาจพุ่งชนโลกในพ.ย. ความรุนแีรงเทียบเท่าปรมาณู 65,000 ลูก 

สำนักข่าวต่างประเทศ (6 พ.ค.) อ้างได้รับการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดจากองค์การนาซ่า โดยรายงานระบุว่าผู้เชี่ยวชาญของนาซ่าได้มีการทำนายว่า ดาวเคราะห์ขนาดมหึมา มีขนาดความกว้าง 1,300 ฟุต หนัก 55 ล้านตัน กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้และอาจพุ่งชนโลกได้ราวเดือนพฤจิกายน ปลายปีนี้ 

ทั้งนี้ ยังรายงานยังบอกอีกว่า ถ้าหากไม่ชนโลกอาจจะแค่เฉียดแบบระยะเผาขนด้วยระยะห่างเพียง 201,700 ไมล์ นับว่าเป็นการเคลื่อนเ้ข้ามาใกล้กว่าดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ที่ห่างราว 238,857-248,725 ไมล์ 

ดาวเคราะห์ดวงดังกล่าว มีชื่อว่า YU55 โคจรรอบดวงอาทิตย์ทุก ๆ 14 เดือน สามารถมองเห็นเป็นขนาดเล็กด้วยกล้องดูดาวเทเลสโคป และถ้าเป็นอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญของนาซ่าได้กล่าวไว้ประมาณวันที่ 8 พ.ย.54  ดาวเคราะห์ดวงนี้อาจสร้างความหายนะครั้งร้ายแรงไ้ด้หากพุ่งชนโลก ตามคำทำนาย เพราะระดับความรุนแรงนั้นจะเทียบเท่ากับระเบิดปรมาณู 65,000 ลูก แรงปะทะอาจส่งผลให้เกิดหลุมลึก 2,000 ฟุต กว้าง 6 ไมล์

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

มวยสากล



มวยสากลเป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีมาแต่โบราณ โดยเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าของทหารในสนามรบ และกลายเป้นเกมกีฬาในการแข่งขันโอลิมปิคยุคโบราณ โดยที่นักมวยในยุคนั้นไม่มีการจำกัดน้ำหนัก ไม่สวมเครื่องป้องกันตัว และไม่จำกัดว่าต้องใช้ได้เพียงหมัด สามารถกัดหรือถองคู่ต่อสู้ได้ โดยไม่มีกติกามากนัก เพียงแต่นักมวยทั้งคู่ต้องถอดเสื้อผ้าให้หมดทั้งตัว เพื่อไม่ให้ซ่อนอาวุธเอาไว้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2236 เจมส์ ฟิกซ์ (James Figg) ผู้ชนะเลิศการต่อสู้ด้วยมิอเปล่าชาวอังกฤษได้กำหนดกฎกติกาในการชก จนได้รับการเรียกขานว่าเป็น " บิดาแห่งมวยสากล " และต่อมาก็ได้มีผู้สร้างนวมขึ้นมา แต่ยังไม่มีการใช้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2432 จอห์น แอล ซัลลิแวน (John L. Sulrivan) ผู้ชนะเลิศการชิงแชมป์มวยด้วยมือเปล่า ประกาศว่าจะไม่ขอขึ้นชกด้วยมือเปล่าอีกต่อไป เป็นจุดเริ่มต้นของการชกด้วยการสวมนวม และได้พัฒนาจนมาเป็นเกมกีฬาที่มีกติกาชัดเจนเช่นในปัจจุบัน

กรีฑา




มีการแข่งขันขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อราว 700 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยทำการแข่งขัน ณ ลาน เชิงเขาโอลิมเปีย ในแคว้นอีลิส ประเทศกรีซ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในสมัยโบราณ เมื่อกรีกเสื่อมอำนาจลง โรมันได้เข้ามาปกครองกรีกและห้ามชาวกรีกแข่งขันกีฬา ทำให้การแข่งขันกรีฑาต้องล้มเลิกไปด้วย
ต่อมาใน พ.ศ. 2439 นักกีฬาชาวฝรั่งเศส ชื่อ บารอน ปิแอร์ เดอ ดูเบอร์แตง ได้ริเริ่มการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกขึ้นใหม่หลังจากล้มเลิกไปเป็นเวลานานถึง 1,500 ปีเศษ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกขึ้นครั้งนี้ได้จัดขึ้นที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และกรีฑาเป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่ไดั้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย จากนั้นจึงมีพัฒนาการมาตามลำดับจนถึงปัจจุบัน ในประเทศไทยได้มีการแข่งขันขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2440